วันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

♣ คนรักกัน ... เขาจะไม่ทำแบบนี้ ♣

คุณพร้อมที่จะรักใครหรือยัง ถ้าพร้อมแล้วคุณก็รู้ใช่ไหมว่า เมื่อรักกันแล้ว คนรักกันอยู่ด้วยกันต้องเติมความชื่นใจให้กับชีวิตกันและกันใช่ไหม ? แต่ทำไมบางวันที่เราอยู่กับนรัก เรากลับรู้สึกว่าทำให้เราเจ็บหัวใจเหลือเกิน บางเรื่องเล็กๆ แต่สะกิดความรู้สึกได้มากมาย ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากได้ความรักยืดยาวหรือกำลังมีรักครั้งใหม่


อยากให้เธอรู้สึกเจ็บซะบ้าง        
จะเป็นเพราะว่าเขาทำคุณเจ็บใจอยู่บ่อยๆ หรือคิดประชดทำให้สะใจไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร แต่ความคิดอย่างนี้ก็วนอยู่ในหัวของคุณตลอดเวลา ทำให้คุณกลายเป็นใครสักคนที่ขอให้ฉันได้มีโอกาสพูดจิก ประชด ทำอะไรก็ได้ ให้เธอได้รู้ว่าความเจ็บเป็นอย่างไร ใช่ ... ทำแล้วรู้สึกสาแก่ใจ นาทีแรกคือความสะใจ นาทีต่อไปคุณคือคนที่เสียใจ เพราะคนนั้นคือคนที่หัวใจคุณรักไม่ใช่หรือ?? ปล่อยความเจ็บ ปล่อยความแค้นออกไปซะเถอะ ไม่เคยมีใครใช้วิธีนี้ประท้วงความรักแล้วได้ผลสักคน


ไม่ใส่ใจ .. ไม่ให้ความสำคัญ        

มีคนเถียงขึ้นมาทันทีว่า "สำคัญนะ .. แต่รอก่อนได้นี่ " " คนรักของเราจึงถูกจัดเข้าหมวดหมู่ "สำคัญแต่ไม่ด่วน" ไม่รู้ตัว เรื่องของคนอื่น เป็นเรื่องที่มาก่อนเสมอ คนของเราเป็นคนกันเอง พูดกันได้อยู่แล้ว ผิดนัดกับเพื่อนไม่ได้ นั่นคือสิ่งสำคัญ ผิดนัดกับแฟน นั่นคือสิ่งที่ต้องเข้าใจ ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ทำแบบนี้ วันหนึ่งแฟนของคุณจะบอกว่า "งั้นเราเป็นเพื่อนกันดีกว่า เพราะดูแล้วเธอจะดูแลเพื่อนดีกว่าแฟน"


ไม่ได้ว่าอะไร แต่ทำให้รู้สึกผิดตลอดเวลา        
ไม่... คุณไม่คยต่อว่าเขาเลย เวลาเขาผิดนัด แล้วยังบอกว่า "ไม่เป็นไรหรอก แค่ฉันยอมทิ้งนัดลูกค้ามานั่งรอคุณเท่านั้นเอง" เวลาที่คุณป่วย แล้วเขาไม่ว่างมาดูแลคุณ ก็ไม่เคยโกรธ แต่คุณจะโทร.เรียกเพื่อนชายคนสนิทมาลากคุณไปโรงพยาบาล แล้วบอกเขาว่า "ไม่ต้องเป็นห่วงนะ เพื่อนมาส่งแล้ว เขามีเวลาให้ฉันเสมอ" เห็นไหมล่ะ..คุณไม่ได้ว่าอะไรเลย แต่คุณกำลังทำให้คนรักของคุณรู้สึกว่าเป็นคนไม่ได้ความ ไม่มีความรับผิดชอบเท่านั้นเอง และถ้ารู้สึกแบบนี้อยู่บ่อยๆ จากวันที่บอกว่าขอโทษก็จะมีวันหนึ่งที่เค้าบอกว่า ..ถ้าอย่างนั้น..ไม่มีเขา..ก็คงจะดีซะกว่า !!


หักหน้าตลอดเวลา
       
ถึงแม้ในโลกนี้จะไม่มีใครเพอร์เฟ็คท์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนรักของคุณจะไม่ได้ความไปซะทุกเรื่อง เวลาคนอื่นพูด เราฟัง แต่เวลาที่คนรักของเราพูดบ้าง กลับหันไปบอกว่า "เงียบๆ ไปเลย" เวลาเขาเสนอความคิดเห็น จะมีคำพูดติดปากกลับไปเสมอว่า "คุณไม่รู้เรื่องหรอกน่า" ไม่ว่าใครทำใส่ใจ ก็ถือเป็นหารไม่เคารพความสามารถของเขาทั้งนั้นล่ะ


เรายังรักกันอยู่ใชไหม
                                                 
ถ้าเมื่อไรที่คุณรักกันอยู่ แต่เกิดคำถามนี้ขึ้นในใจ ไม่ต้องถามใคร ให้ถามตัวคุณเองทั้งคู่ว่าคุณให้ความเชื่อมันต่อกันอย่างไร คุณลืมที่จะบอกคู่รักของคุณหรือเปล่าว่าคุณรักเขามากแค่ไหน? ใครจะเถียงว่าแค่คำว่ารักไม่ได้เป็นเครื่องยืนยันหรอกนะว่าจะรัรกกันตลอดไป ไม่พูดก็ได้ แต่อย่าลืมแสดงความรู้สึก แสดงความเอื้ออาทร ให้เขารู้ว่าเรารักเขามากแค่ไหน ... เราทุกคนต้องการความมั่นใจในรักเสมอล่ะ


โกหก      
   
คนรักกัน อภัยให้กันได้เสมอ ไม่มีความผิดใดที่เราจะให้อภัยคนที่เรารักไม่ได้ !! แต่ขอให้จริงใจต่อกัน อย่าโกหกกัน กับคำที่ว่า ไม่อยากบอก เพราะไม่อยากให้ไม่สบายใจ มันแค่คำแก้ตัวที่ทำให้รู้สึกแย่น้อยลงไปเท่านั้น แต่ไม่ได้ทำให้ทุกอย่างดีขึ้น ... จริงใจและเปิดเผยต่อกัน นั่นคือการให้เกียรติคนรักเราอย่างมากที่สุดแล้ว



มีอะไรก็เก็บไม่เคยพูดความในใจ        
เวลาที่มีปัญหาแล้วคุณพูดคำว่า "เปล่า..ไม่มีอะไร" "ไม่เป็นไร" เราเชื่อว่านั่นไม่ได้แปลว่า "ไม่รู้สึก" แต่คุณพยายามเก็บความรู้สึกโกรธนั้นไว้อยู่ในใจ ที่เริ่มฟูมฟักกลายมาเป็นระเบิดเวลา ที่คุณจะไม่เหลือแม้แต่ความทรงจำของความรู้สึกดีๆ ต่อกัน ก่อนที่จะเก็บกดเกินกว่าจะทน ค่อยๆ พูดกันด้วยเหตผล (ไม่แนะนำให้พูดขณะที่โกรธ เพราะแต่ละคนก็มีเหตุผลของตัวเอง) ลองคุยกันอย่างใจเย็น ไม่จำเป็นต้องบอกว่าคุณถูก เขาผิด แต่ให้บอกว่าคุณเสียใจ ที่เขาทำแบบนี้ ไม่จำเป็นต้องโทษกัน แต่ควรเปิดใจและรับฟังต่อกันไม่ได้แนะให้สาดอารมณ์ให้กัน แต่
... ควรเรียนรู้ที่จะปรับตัวเพื่ออยู่ด้วยกัน
นี่คือ .. คำขอร้อง.. อย่าทำแบบนี้กับคนที่คุณรักเลย ..

Hold My Hand

  


Here is a short story with a beautiful message...
นี่คื่อเรื่องสั้นที่ส่งพร้อมกับข้อความที่สวยงาม

Little girl and her father were crossing a bridge.
มีพ่อลูกคู่นึงกำลังจะข้ามสะพาน

The father was kind of scared so he asked his little daughter,
คุณพ่อค่อนข้างกลัวเล็กๆ เลยบอกลูกสาวตัวน้อยของเขาว่า

'Sweetheart, please hold my hand so that you don't fall into the river.'
ลูกรักจ๊ะ จับมือพ่อไว้สิ หนูจะได้ไม่ตกลงไปในแม่น้ำ

The little girl said, 'No, Dad. You hold my hand.'
เด็กน้อยกล่าวว่า 'ไม่ค่ะพ่อ พ่อหน่ะแหละจับมือหนู'

'What's the difference?' Asked the puzzled father.
.'มันต่างกันยังไงจ๊ะลูก' พ่อถามด้วยความสงสัย

'There's a big difference,' replied the little girl.
'มันต่างกันมากเลยค่ะพ่อ' เด็กน้อยกล่าว

'If I hold your hand and something happens to me,
'ถ้าหนูจับมือพ่อ แล้วมีอะไรเกิดขึ้นกับหนู,

chances are that I may let your hand go.
มันมีโอกาสที่หนูจะปล่อยมือพ่อ

But if you hold my hand, I know for sure that no matter what happens,
แต่ถ้าพ่อจับมือหนู หนูรู้ว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น

you will never let my hand go.'
พ่อไม่มีวันปล่อยมือหนูแน่นอน'

In any relationship, the essence of trust is not in its bind, but in its bond.
ในทุกความสัมพันธ์ สิ่งสำคัญของความเชื่อมั่น ไว้ใจ ไม่ใช่อยู่ที่สาระของมัน แต่เป็นความรู้สึกกับมัน


So hold the hand of the person who loves you rather than expecting them to hold yours...
เพราะฉะนั้น จงจับมือคนที่รักคุณ ดีกว่าที่จะหวังไว้เค้าจับมือคุณ

This message is too short......but carries a lot of Feelings.
ข้อความนี้สั้นเกินไป แต่แฝงไว้ด้วยความรู้สึกมากมาย

ระหว่างเพื่อนกะแฟน...

ระหว่างเพื่อนกะ แฟน...

++ อาหาร ++

เพื่อน: ข้าว ราดแกง / ก๋วยเตี๋ยว ราคาไม่เกิน 30แดกไรแพงๆวะ เปลืองชิบ
แฟน: กินอะไรก็ได้ที่มันไม่ใช่ ข้าว - สปาเกตตี้
          เฟรนฟรายซ์ ซูชิ ฯลฯ  สั่ง กันไปมื้อละร้อยขึ้น  

-------------------------- --------------- -----------
++ ข้ามถนน ++

แฟน: ข้ามได้ มั้ย รระวังนะครับ! จับมือผมไว้
เพื่อน: ………อ้าว! เหี้ยรอกูด้วย(แม่งข้าม ไปนานละ)

-------------------------- ------------------------- -
++ เวลาเดิน ++

แฟน: แนบชิดประหนึ่ง ตัวดูดแบบสุญญากาศ
เพื่อน: เฮ้ย! ไปไกลๆกูหน่อยดิ ร้อนจะตาย ห่า!!

-------------------------- ------------------------- -
++ บนรถเมล์ ++

แฟน: นั่งก่อนเลย ครับ เดี๋ยวผมยืนเอง
เพื่อน: เหยิบหน่อยดิวะ กูจะนั่งด้วย!

--- ----------------------- --------------------------
++ เงิน ++

แฟน: มีเสมอ..จ่ายไม่อั้น
เพื่อน: ไม่มีเสมอ... มึงออกไปก่อนละกัน เดี๋ยวกูให้(แร้วแม่งก็ชิ่ง)

------------- ------------- --------------------------
 
++ มา สาย ++

แฟน: ไม่เป็นไรครับ ผมรอได้
เพื่อน: ทำห่าไรอยู่ วะ มาโคตรช้าเลย สาด ...เลี้ยงข้าวกูเลย(เพิ่งจะมาก่อนแม่ง ได้ 5 นาทีเหมือน กัน)

-------------------------- ------------------------- -
 
++ ช่วยทำธุระ ++

แฟน: ว่าง เสมอ - อ๋อ ว่างครับ จะให้ไปถึงที่นั่นกี่โมงดี จะได้เตรียมตัวล่วงหน้า
เพื่อน: ไม่เคยว่าง - ขนของย้ายห้องเหรอวะ .. เออ...ที่จริงก็ได้นะ แต่พอดีแม่ กูให้ช่วยพาไปหาญาติๆฝ่ายแม่ว่ะ
        แล้วบ่ายๆ ต้องไปหาของฝ่ายพ่ออีก คงไม่ว่างแล้วละ

------------------------- - --------------------------
++ กลับบ้านดึก ++

แฟน: เดี๋ยวผมนั่งรถไปส่งดีกว่านะ กลับคนเดียว อันตราย
เพื่อน: กลับยังไงวะมึง มีค่ารถป่าว แต่กูไม่มีให้ยืมนะ เว้ย

-------------------------- ------------------------- -
++ ป่วย ++

แฟน: เป็นไรมากมั้ย? กิน ยายังคับ ห่มผ้าด้วยนะ(แม่งดูแลแม่อย่างนี้ป่าววะ)
เพื่อน: เป็นห่าไรอีกวะ สำออยอะดิมึงออกมาให้ไวเลย แดกเหล้ากัน
-------------------------- -

++ สอนหนังสือ ++

แฟน: ไม่เข้าใจตรงไหนบอกนะ ครับ จะอธิบายให้ใหม่
เพื่อน: กูสอนมึง 3 รอบแล้วนะ ห่านี่ แดกหมาแทนข้าวไง วะ

-------------------------- ------------------------- -
++ วาเลนไทน์ ++

แฟน: ให้คุณได้ ทุกอย่าง ยกเว้น ดาว เดือน และ ขนหน้าอก
เพื่อน: ……………(วันนี้มันไม่มีตัว ตน)

-------------------------- ------------------------- -
++ โดนทิ้ง ++

แฟน: เราไปกันไม่ได้ / อย่า มายุ่งกับเรา / ไปไหนก็ไปรำคาญ (so sad)
เพื่อน: ไม่เป็นไรเว้ย! ช่างแม่ง มึงยังมีกูอยู่

วันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2554

Valentine Korea

        
         วาเลนไทน์เกาหลี เขามีถึง 12 เดือนต่อปี ประหลาดใจไหมล่ะ จะว่าเป็นวาเลนไทน์เสียทีเดียวก็หาใช่ แต่เป็นวันที่แสดงถึงความรักตลอด 12 เดือนเลยทีเดียว แต่สำหรับคู่รักหนุ่มสาวแล้ววันเหล่านี้หมายถึง ความสัมพันธ์ที่ก้าวหน้าไปเรื่อยๆ และคนที่ไม่มีรักก็หาโอกาสเมา เศร้า เซ็ง ว่างั้น เริ่มตั้งแต่


14 มกราคม diary day สัญลักษณ์แห่งการเริ่มต้นของคู่รักที่จะแลก yearly planner เพื่อวางแผนทั้งปีว่าเราจะทำอะไรกันวันไหน เธอเกิดวันที่เท่าไร ชอบสีอะไร ก็บันทึกลงไป


14 กุมภาพันธ์ valentine's day ไม่ต้องบอกก็รู้ รักใครชอบใครก็รีบไปเลย วันนี้ช็อกโกแลตเป็นพระเอกค่ะ


14 มีนาคม white day เป็นวันที่ชายหนุ่มสารภาพรัก หรือตอบรับรักของสาวเจ้า จากนั้นก็พาไปดินเนอร์ขนมจีนริมทางที่อินซาดง ไปกินขนมหวานที่เมียงดง วันนี้ชายหนุ่มจะไม่ให้อะไรมากมายนัก ส่วนใหญ่จะให้ลูกอม ขนมหวานเป็นของที่ระลึก แต่จะไม่นิยมให้ช็อกโกแลต ดอกไม้ ตุ๊กตา หรือว่าเครื่องประดับแทนใจใดๆ เพราะมันเปลือง




14 เมษายน black day ของเกาหลีใต้ คือวันที่ชายหญิงที่ไม่ได้อะไรเลยในวันวาเลนไทน์ และ White Day จะใส่เสื้อผ้าสีดำออกไปเดินตามถนน แล้วกินบะหมี่ราดด้วยซอสสีดำ ฮ่า ฮ่า...ทำ ทำไมเนี่ย งง!!



 

14 พฤษภาคม roes day ตรงตัว แลกดอกไม้กันและกัน แต่จะทำอะไรต่อก็อย่าเพิ่ง รอเดือนถัดไป


14 มิถุนายน kiss day วันนี้ละโป๊ะๆ ได้เลย


14 กรกฎาคม silver day จูบเสร็จก็ค่อยแลกเปลี่ยนเครื่องประดับแทนใจของกันและกัน ชายหนุ่ม หญิงสาว


14 สิงหาคม green day วันนี้คู่รักทั้งหลายจะเสาะหาสถานที่เป็นธรรมชาติ ใช้เวลาร่วมกัน ส่วนคนโสดก็จะดื่มโซจูฉลองความเหงา เหงาและเหงาต่อไป เฮ้อ...

14 กันยายน photo day วันนี้คู่รักจะมาถ่ายรูปด้วยกันในสถานที่พิเศษ แล้วนำมาตั้งโชว์ในที่ทำงานหรือที่ที่มีความหมาย นัยว่าเป็นการประกาศความสัมพันธ์ที่คืบหน้าขึ้นแล้วย่ะ ไม่ต้องมาค้อน


14 ตุลาคม wine day เอ้า...ดื่มกันอีกแล้ว แต่ถ้าจะโซจูก็แบล็กเดย์ วันนี้ต้องไวน์เท่านั้น ดื่มให้พับกันไปข้าง


14 พฤศจิกายน movie day พอสร่างเมาเราก็เข้าดูหนังกันต่อในเดือนถัดไป แต่อ๊ะๆ ยังทำอะไรไม่ได้ อั้นไว้ก่อน บรรดาคู่รักทั้งหลาย เพราะถ้าจะทำอะไรกันต้องเดือนถัดมา



14 ธันวาคม วัน hug day วันนี้คู่รักที่ดูหนังเสร็จก็พร้อมที่จะอยู่ในอ้อมกอดของกันและกัน อืม...จากนั้นก็ย้อนไปที่ kiss และ kiss day อีกครั้งก่อนจะจบที่...happy birthday... ในวันที่เราต่างก็ถือกำเนิดเกิดมาโดยที่ยังไม่มีเสื้อ ผ้าติดตัวมาสักชิ้น...วิ้วๆๆๆ